วันพุธที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2561

วังวารี 3,4/4

วังวารี ตอนที่ 3 เมื่อริสาตกเป็นของภุชงค์จนหนำใจกันทั้งสองฝ่ายแล้ว ชายหนุ่มจึงตกลงจะพาริสาไปที่วังวารีอีกครั้ง แต่ก่อนหน้านั้นริสาก็ได้แวะเข้าตัวจังหวัดเพื่อหาร้านบริการ internet เพื่อส่งต้นฉบับตอนต่อไป และขากลับเธอก็พบเหตุการณ์ไม่คาดคิดเมื่อมีชายสูงวัยคนนึงเกิดอาการโรคหัวใจกำเริบกะทันหัน แต่ด้วยไหวพริบและน้ำใจของพลเมืองดีอย่างเธอจึงช่วยชายคนนั้นเอาไว้ได้ทัน ริสาได้มารู้ตอนหลังว่าชายคนนั้นคือ นายหัวโชติ คนดังประจำจังหวัด ซึ่งกำลังขอซื้อวังวารีจากภาดลผ่านทาง หมอสุนัย หมอประจำตัวของเขาซึ่งเป็นหมอประจำตัวของน้องเล็กด้วยเช่นกัน บ่ายวันนั้นภุชงค์ก็พาริสาไปที่วังวารี โดยริสาบอกภาดลว่าเธอจะขอมาพักอยู่ที่เกาะนี้เพื่อสืบเรื่องราวการหายตัวไปของจงจิตต์ ซึ่งภาดลก็ตัดสินใจยอมทำตามความต้องการของริสา เพราะเขาเองก็อยากรู้เช่นกันว่าผู้หญิงทั้งสองคนหายไปไหนทั้งที่เขาเองก็ตามหาแทบพลิกแผ่นดินแล้ว ซึ่งก็ทำให้มยุรี คุณพัชรินและคุณปรีดาไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่กับฉัตรชัยแล้ว เขากลับดีใจอยู่ลึกๆที่จะได้มีโอกาสใกล้ชิดกับริสามากขึ้น เย็นวันนั้นทั้งภุชงค์ ริสา และธารทิพย์ก็จัดงานเลี้ยงเล็กๆฉลองกันที่งานสำเร็จไปขั้นนึงแล้ว ซักพักก็มีคนของนายหัวโชติมาหาและบอกว่านายหัวโชติต้องการเชิญคุณริสาไปเลี้ยงขอบคุณที่ช่วยชีวิตเขาไว้เมื่อตอนกลางวัน ริสาจึงไปตามคำเชิญแต่เพียงลำพัง และที่บ้านของนายหัวโชตินี่เอง ริสาก็ได้เล่าเรื่องการหายตัวไปของจงจิตต์ที่วังวารีให้นายหัวโชติฟัง แต่ขณะที่เล่านั้นเธอเองก็เริ่มมึนๆเพราะดื่มไวน์เข้าไปพอสมควรแล้ว แถมยังเพิ่งจะกินเบียร์มาจากบ้านของภุชงค์อีกด้วย ทำให้หญิงสาวเริ่มพูดอ้อแอ้ไม่รู้เรื่อง นายหัวโชติเลยให้ลูกน้องจัดที่นอนให้ริสานอนพักเสียก่อน พรุ่งนี้เช้าค่อยกลับ หญิงสาวเมื่อหัวถึงหมอนก็ทำท่าจะหลับแต่ยังพอมีสติอยู่ เธอรู้สึกว่าในห้องนอนมีเพียงเธอกับนายหัวโชติที่อุ้มเธอมานอนบนเตียงเท่านั้นเท่านั้น ซักพักตอนเธอกำลังสลึมสลือก็ได้ยินเสียงนายหัวโชติบอกให้ลูกน้องออกไปให้หมดอย่ามารบกวน แล้วก็ตามมาด้วยเสียงปิดประตูเบาๆ ริสาพอจะเข้าใจอะไรบางอย่าง แต่เธอไม่มีเรี่ยวแรงที่จะตอบโต้อะไรได้อีกแล้วด้วยความมึนเมาจากฤทธิ์แอลกอฮอล์ เธอรู้สึกว่าเสื้อผ้าของเธอถูกปลดออกไปทีละชิ้นๆโดยมีเสียงเรียกชื่อเธอเป็นระยะๆแต่เธอก็ไม่ได้ขานรับ ทำให้นายหัวโชติย่ามใจเริ่มลูบคลำเรือนร่างของเธอโดยเริ่มที่หน้าอกคู่งามทั้งสองข้างก่อน ความที่ริสาเป็นคนผิวขาวจึงทำให้ยอดอกของเธอออกสีชมพูระเรื่อ รูปทรงของเต้านมก็เป็นทรงกระเปาะสวยงามยิ่งนัก สร้างความกระชุ่มกระชวยให้แก่นายหัวจนอดไม่ได้ที่จะก้มลงไปดูดเม้มเนินเต้าของเธอสลับไปมาทั้งสองข้าง นายหัวขา..นายหัวจะทำอะไรคะ สา...อูยยย...สาเสียวค่ะ หญิงสาวครางแผ่วๆเหมือนคนละเมอ แต่นายหัวก็ปลอบประโลมว่า เด็กดี..อยู่เฉยๆนะเดี๋ยวผมจะทำให้คุณมีความสุข หลังจากนั้นผมจะคอยหนุนหลังคุณในการสืบหาตัวน้องสาวเพื่อนของคุณในวังวารีเอง ได้ผมออกหน้าให้รับรองว่าคนในวังวารีไม่มีใครกล้ามาทำร้ายคุณแน่ แค่ยอมมีอะไรกับผมซักครั้งนะริสา คุณสวยถูกใจผมเหลือเกิน ริสาได้ฟังดังนั้นก็คิดว่าคงจะไม่ดีแน่ถ้าเธอจะบุกเข้าไปสืบหาความจริงตามลำพัง ยอมให้นายหัวซักครั้งแลกกับความปลอดภัยในวังวารีคงจะไม่เสียหายอะไรนัก เธอจึงโอนอ่อนผ่อนตามปล่อยให้นายหัวล้วงควักไปทุกซอกหลืบของเรือนร่างเธอตามสะดวก นายหัวโชติเห็นริสาไม่ขัดขืนจึงละจากเนินอกคู่งามลงไปที่โคกสวาทโหนกนูนด้านล่าง จัดการถอดกางเกงที่หญิงสาวใส่มาแล้วเขวี้ยงออกไปอย่างไม่ไยดี เหลือเพียงชั้นในตัวจิ๋วที่แทบจะปกปิดเนินนูนของเธอไม่มิด ซึ่งในที่สุดมันก็ถูกรูดออกไปจากเรียวขาขาวๆของเธอ บัดนี้จึงเหลือเพียงกลุ่มไหมสีดำบางๆเท่านั้นที่ยังปกคลุมรอยแยกกลางหว่างขาของเธอเอาไว้ นายหัวโชติไม่รอช้า ก้มลงไปซูกไซร้ตามร่องหลืบที่มีจนริสาดิ้นบิดเอวส่ายสะโพกไปมาร้องครวญครางฟังไม่ได้ศัพท์ นายหัวโชติช่างเร่าร้อนอะไรเช่นนี้ โหมบุกอย่างรวดเร็วจนเธอแทบตั้งตัวไม่ติดเลยทีเดียว แต่ซักพักเดียวริสาก็เริ่มจะกลับมาคุมเกมได้เมื่อใช้มือจับศีรษะของนายหัวโชติกดเข้ากับเนินหน้าขาของตัวเองจนทำให้เขาเกือบหายใจไม่ออก แต่ริสาก็เพลิดเพลินอยู่กับความเสียวที่ถูกลงลิ้นให้เพียงไม่นาน เพราะครู่เดียวนายหัวโชติก็ลุกขึ้นมาพร้อมด้วยท่อนรบแข็งโด่ดำเมื่อมปลายชี้มาทางหว่างขาของเธอราวกับว่ามันรู้เป้าหมายที่ควรจะเข้าไปอยู่แล้ว ริสาเองลืมตาขึ้นมาดูก็ถึงกับตะลึงอุทานออกมาอย่างไม่รู้ตัว ตายแล้ว..ใหญ่อะไรอย่างนี้ น่ากลัวจังเลยค่ะนายหัว..ของนายหัวมันบานอย่างกับเห็ดโคนแน่ะ หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอด้วยความยากลำบาก เพราะขนาดของท่อนลำนายหัวโชตินั้นมันใหญ่กว่าของภุชงค์ที่เป็นคนเปิดบริสุทธิ์เธอมาเมื่อไม่กี่วันก่อนนี้ซะอีก สงสัยว่าถ้าเธอโดนแท่งรักอันนี้เข้าไปคงจะเดินไม่ได้ไปอีกหลายวันเหมือนครั้งแรกที่เธอเสียความสาวให้กับภุชงค์แน่ๆเลย แต่แล้วความคิดของเธอก็หยุดลงเมื่อปลายแท่งลำอันเขื่องมาจ่ออยู่หน้าปากประตูสวรรค์ของเธอแล้ว ฉับพลันนั้นเรียวขาของเธอก็ถูกยกขึ้นพาดบ่าของนายหัว สะโพกของเธอจึงลอยขึ้นมานิดหน่อยได้ระดับเดียวกับสะโพกของนายหัวพอดี หัวบานมู่ทู่ของแท่งรักก็ทิ่มๆตำๆอยู่กับกลีบเนื้อของเธอแล้ว และเพียงนายหัวจับสะโพกของริสายึดเอาไว้แล้วออกแรงดันนิดหน่อย ก็ทำให้แท่งรักแข็งโป๊กมุดแหวกเข้ามาในโพรงสวรรค์ของเธอแล้วโดยที่นายหัวแทบไม่ต้องใช้มือช่วยด้วยซ้ำ ส่งผลให้หญิงสาวหน้าเบ้ทันทีเพราะความจุกเสียวมันขึ้นมาถึงหน้าท้องจนริสาแทบหายใจไม่ออกต้องเป่าลมออกปากไปหลายที นายหัวก็เหมือนรู้ทันจึงผ่อนแรงกดลงไป เว้นช่องว่างให้หญิงสาวได้หายใจหายคอมากขึ้น จังหวะการทำรักของนายหัวนั้นรู้หนักรู้เบาไม่หักโหมเหมือนภุชงค์ที่เหมือนม้าหนุ่มคะนองศึก นายหัวโชตินั้นเปรียบเหมือนม้าแก่ที่เต็มไปด้วยประสบการณ์ ไม่ต้องเน้นแรงมากแค่ควบคุมจังหวะนิดเดียวก็ทำให้ริสาเสียวจนร้องครวญครางไม่รู้เรื่องแล้ว หลังจากที่ซอยกระเด้าอยู่นานจนริสาเสร็จไป 3-4 รอบแล้ว นายหัวจึงพลิกเปลี่ยนท่าโดยจับตัวของหญิงสาวให้ลุกขึ้นมานั่งตักหันหน้าเข้าหากัน จากนั้นก็กระดกเอวใส่กันต่อโดยที่นายหัวซุกไซร้ที่หน้าอกทั้งสองข้างของหญิงสาวไปด้วย ฝ่ายริสาเองก็ไม่รู้จะทำอะไรมากไปกว่ากอดนายหัวให้แน่นๆแล้วก็ขย่มร่างขึ้นๆลงๆโดยมีแก่นกายของนายหัวเสียบแทงอยู่ที่ร่องกลางหว่างขาไปพร้อมกันจนน้ำเสียวของเธอล้นทะลักออกมาเปียกหน้าขาของนายหัวจนแฉะชุ่ม กว่าคืนนั้นจะผ่านพ้นไป ริสาต้องรับศึกแบบมาราธอนจนเสร็จแล้วเสร็จอีกไม่รู้กี่ครั้ง เพราะนายหัวโชติรู้จักควบคุมอารมณ์ได้ดีมากโดยไม่มีการหลั่งออกมาซักครั้งแม้ว่าเธอจะพยายามขมิบร่องเสียวบีบรัดท่อนรักของเขาไปไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว นับว่านายหัวมีน้ำอดน้ำทนมากกว่าหนุ่มๆบางคนซะอีก เล่นเอาเธอหอบแฮ่กๆต้องเป็นฝ่ายร้องขอให้เขาหยุดซะเอง ริสาแทบจะคลานเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างร่างกายที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ แต่แล้วนายหัวก็ตามเธอเข้ามาถึงในห้องน้ำแล้วจับสะโพกของริสาซึ่งยังอยู่ในท่าคลานสี่ขา จากนั้นก็สอดกระแทกท่อนรักอันเขื่องกลับเข้าไปใหม่ ริสาถึงกับสะดุ้งเฮือกแล้วสะบัดหน้าร้องครางด้วยความเสียวอีกครั้ง ร่องรักของเธอหลั่งน้ำออกมาครั้งแล้วครั้งเล่าจนแทบจะไม่มีเหลือออกมาอีกแล้ว ยิ่งถูกกระแทกกระทั้นเข้าไปอย่างนี้อีกเธอก็ดิ้นไปมาอย่างทุรนทุรายจนแทบจะทนไม่ไหวแล้ว ซึ่งในจังหวะสุดท้ายนั้นริสาเผลอหนีบขาเข้าหากันเพราะไม่อยากให้แท่งรักของนายหัวสอดกระแทกเข้ามาอีกแล้ว แต่นั่นกลับทำให้ร่องรักของเธอหนีบรัดท่อนเสียวของนายหัวมากขึ้นจนเขาทนไม่ไหว ปล่อยน้ำรักกระฉูดเข้าไปในร่องเสียวของริสาทันทีอย่างมากมายจนล้นทะลักไหลกลับออกมาตามซอกขาเป็นทาง แล้วริสาก็ฟุบไปในห้องน้ำนั่นเอง เกมรักครั้งนี้ทำให้ริสาอิ่มไปอีกหลายวันโดยไม่รู้สึกอยากจะเล่นรักกับใครอีกเลย ส่วนนายหัวเองก็เอ็นดูริสามาถึงขนาดออกปากว่าถ้ามีอะไรที่พอจะช่วยได้ขอให้เธอพูดมาคำเดียวเท่านั้น แม้จะต้องบุกน้ำลุยไฟเขาก็พร้อมจะช่วยเธอทุกสถานการณ์ ทำให้หญิงสาวรู้สึกขอบคุณนายหัวเป็นอย่างมาก ซึ่งเธอก็บอกไปว่าขอเพียงใช้ชื่อของนายหัวเป็นเกราะคุ้มครองอันตรายไม่ให้ใครมาทำร้ายก็พอ 
วังวารี ตอนที่ 4 แล้วก็ถึงวันที่ริสาได้ย้อนกลับเข้ามาสืบหาความจริงในวังวารี ทุกคนในวังวารีดูท่าทางไม่ค่อยอยากจะต้อนรับเธอนัก มีเพียงฉัตรชัย พี่ชายของมยุรีเท่านั้นที่แสดงให้เห็นอย่างเปิดเผยว่าเขาชอบเธอ ริสาเองก็ไม่ค่อยชอบผู้ชายเจ้าชู้อย่างฉัตรชัยนัก แต่เธอก็พยายามพูดดีด้วยเนื่องจากการอยู่ที่เกาะนี้จำเป็นต้องมีพวกไว้บ้าง แล้วคืนแรกของการมาเยือนวังวารีก็เกิดเรื่องขึ้นจนได้ เมื่อริสาพบว่ามีคนสวมชุดสีขาวปลอมตัวเป็นผีมาหบอกเธอถึงในห้องนอน แต่ด้วยความฉลาดของนักสืบสาวเธอจึงมองออกได้ไม่ยากว่านี่คือ 1 ในสมาชิกของวังวารี เพียงแต่เธอไม่รู้ว่าภายใต้หน้ากากนั้นเป็นใครเท่านั้นเอง ซึ่งเมื่อการข่มขู่ให้ริสากลัวไม่ประสบผลสำเร็จ แผนการขั้นที่สองของผีปลอมๆคนนั้นก็เริ่มขึ้นโดยที่ริสาไม่ทันระวังตัว ร่างนั้นโถมเข้ากดทับเธอทันทีจนริสาดิ้นหนีไปไหนไม่ได้ ริสาเมื่อได้ปลุกปล้ำลองกำลังกับผู้บุกรุกแล้วจึงรู้ว่าคนผู้นี้มีแรงมากกว่าเธอหลายเท่า แต่ด้วยรูปร่างภายใต้ชุดคลุมทำให้เธอพอจะเดาได้ว่าคนที่กำลังปล้ำเธออยู่นั้นไม่น่าจะเป็นผู้ชายไปได้ ซึ่งจังหวะนึงที่เธอตะปบไปที่หน้าอก นักสืบสาวก็ได้พบกับสองเต้าอวบใหญ่เข้าเต็มมือ การต่อสู้ขัดขืนดำเนินไปอย่างขลุกขลัก ซักพักริสาก็พบว่าตัวเองตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ เมื่อแขนขาถูกรวบไว้ด้วยมือทั้งสองข้างของผู้บุกรุก เธอดิ้นขัดขืนจนเหนื่อยและเริ่มหมดแรง แล้วเธอก็ถูกมัดข้อมือข้อเท้าเข้ากับขาเตียงทั้ง 4 ข้าง กลายเป็นว่าร่างของเธอถูกจับขึงพืดอย่างไม่มีทางขัดขืน จากนั้นคนแปลกหน้าก็ถอดชุดคลุมออกเหลือไว้แต่เพียงหน้ากากเพื่อปิดบังใบหน้าที่แท้จริง ภายใต้ชุดคลุมนั้นเป็นร่างสาวหุ่นอวบอัดที่แต่งกายด้วยชุดที่เตรียมพร้อมสำหรับการทำรัก เธอผู้นั้นพกอุปกรณ์สำหรับทะลวงช่องรักมาอย่างครบเครื่องทุกขนาดทุกสีทุกแบบ ชุดนอนของริสาถูกฉีกขาดออกจากกันอย่างไม่ไยดี ร่างเปลือยขาวโพลนก็ปรากฏแก่สายตาของบุคคลลึกลับทันที หน้าอกทรงกระเปาะขนาดพอดีมือถูกบีบขยำอย่างรุนแรง ขณะที่ช่องทางรักของเธอถูกแหย่แยงด้วยนิ้วมือทีละนิ้วๆจนครบ 3 นิ้วก็คับแน่นจนไม่สามารถยัดลงไปได้อีกแล้ว น้ำเมือกในช่องเสียวก็ค่อยๆทะลักไหลออกมาเรื่อยอย่างควบคุมไม่ได้ ริสาตกใจจนทำอะไรไม่ถูก แต่คิดว่าคงเป็นการข่มขู่ให้เธอกลัวจนอยู่ในวังวารีต่อไปไม่ได้เท่านั้น จะซักแค่ไหนกันเชียว..เสียวกว่านี้ก็เคยเจอมาแล้ว นักสืบสาวคิดเช่นนี้ เพราะทั้งนายหัวโชติและคุณภุชงค์ต่างก็เคยประเคนท่อนรักขนาดใหญ่ให้เธอจนร่องเสียวของเธอบานจนหุบไม่ลงมาแล้ว กับของปลอมแค่ไม่กี่อันนั้นไม่น่าจะทำให้เธอกลัวจนต้องหนีไปง่ายๆหรอก แล้วริสาก็คิดถูก เพราะผู้บุกรุกเองก็เป็นหญิงเช่นเดียวกับเธอ การจะเล่นรักนั้นก็ทำได้เพียงแค่ลูบไล้ภายนอกเท่านั้น หากต้องการจะทะลวงช่องเสียวก็ต้องอาศัยท่อนเนื้อปลอมที่พกมาด้วยเท่านั้น ซึ่งขนาดของแต่ละอันก็ไม่ได้ใหญ่โตจนทำให้ริสาหวาดหวั่นซักเท่าไหร่ กลับจะทำให้ริสาชอบใจซะอีก เพราะยามนี้เธอเองก็คิดถึงท่อนลำของคุณภุชงค์และนายหัวโชติขึ้นมาจับใจ อยากจะถูกทะลวงช่องทางรักเร็วๆจนทนไม่ไหวแล้ว ผู้บุกรุกยามวิกาลตัดสินใจใช้ท่อนยางเทียมสอดใส่แล้วกระแทกใส่ร่องเสียวของนักสืบสาวทีละอันๆ แต่ก็ไม่มีอันไหนเลยที่จะทำให้ริสาต้องร้องครวญครางอย่างสุดเสียวได้ ริสาเองก็ทำหน้าเฉยๆแล้วบอกผุ้บุกรุกอย่างมั่นใจว่าไม่มีทางทำให้เธอเสร็จได้ด้วยแท่งรักอันกระจิ๋วพวกนี้หรอก เมื่อได้ฟังดังนั้นผู้บุกรุกยามวิกาลจึงหงุดหงิดและตัดสินใจใช้ไม้ตายสุดท้าย นั่นก็คือท่อนเนื้อขนาดยาวพิเศษและอวบอ้วนยิ่งกว่าข้อมือของตัวเอง ริสาเองเมื่อได้เห็นท่อนยางเทียมอันนั้นเข้าก็ถึงกับตาค้างเช่นกัน มันใหญ่มากอย่างที่เธอไม่เคยเห็นมาก่อน แต่ว่าท่อนยางอันนี้เป็นแบบที่ทอมใช้กับดี้ มันต้องสอดใส่ปลายทั้งสองด้านเขาไปในร่องเสียวของทั้ง 2 คนพร้อมๆกัน ซึ่งผู้บุกรุกสาวคนนั้นก็เอ่ยปากว่า เธอกับชั้นมาแข่งกัน ถ้าเธอแพ้..เธอจะต้องออกไปจากเกาะนี้นะ เข้าใจมั้ย นักสืบสาวพยักหน้าพลางกลืนน้ำลายอย่างไม่มั่นใจว่าเธอจะรับท่อนยางอันนี้ไหว แต่เธอก็ฝืนใจย้อนถามไปว่าแล้วถ้าเธอชนะล่ะ เธอจะได้อะไร ไม่มีทางหรอก ชั้นไม่มีวันจะเสร็จง่ายๆด้วยของเล่นของตัวเองหรอกนะ ผู้บุกรุกพูดอย่างมั่นใจ เพราะเธอเองก็เคยผ่านศึกใต้สะดือกับเจ้าของวังวารีแห่งนี้มาอย่างโชกโชนแล้วเช่นกัน และเธอก็เป็นผู้หญิงคนเดียวที่สามารถรองรับอารมณ์ของคุณภาดลได้อย่างถึงใจที่สุด ใช่แล้ว..เธอก็คือโฉมฉาย พี่เลี้ยงของน้องเล็กนั่นเอง โฉมฉายไม่ต้องการให้ผู้หญิงคนไหนมาแย่งความสนใจของคุณภาดลไปจากคุณน้องเล็ก เธอจึงพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อกีดกันผู้หญิงทุกคนที่เข้ามาข้องเกี่ยวกับคุณภาดลออกไป รวมถึงครั้งนี้เธอก็ตั้งใจว่าจะมาไล่ริสาออกไปโดยการทำให้เธอเสียความบริสุทธิ์ด้วยเกมเสียวชนิดที่เรียกว่าลืมตายไปเลย แต่เธอก็คาดไม่ถึงว่าริสานั้นจะผ่านประสบการณ์บนเตียงจนช่ำชองไม่แพ้เธอเหมือนกัน ดังนั้นคราวนี้เธอจึงขอเดิมพันด้วยความอึดในเชิงกามของเธอเอง โฉมฉายที่ยังใส่หน้ากากปิดบังใบหน้าที่แท้จริงบรรจงสอดท่อนยางขนาดยักษ์ลงไปในช่องเสียวของนักสืบสาวอย่างช้าๆ มันเคลื่อนลงไปได้อย่างยากลำบาก ริสาเองก็หน้านิ่วคิ้วขมวดกับความคับแน่นในร่องรักของเธออย่างไม่เคยเจอมาก่อน เมื่อผ่านไปได้ครึ่งหนึ่งของความยาว โฉมฉายก็นั่งคร่อมสะโพกของเธอแล้วครอบช่องรักของตัวเองสวมลงไปที่ท่อนลำซึ่งปักคาอยู่ในร่องเสียวของริสาด้วยความยากลำบาก ถึงเธอจะเคยเล่นกับท่อนยางอันนี้มาก่อนแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะรับท่อนยักษ์อันนี้เข้าไปได้ง่ายๆ และเมื่อเธอสวมมันลงไปได้ครึ่งนึง เธอก็ทิ้งน้ำหนักทับลงไปบนตัวริสาทันที ทำให้ท่อนยางซึ่งยังคาอยู่ในร่องรักของทั้งคู่สวนพรวดเข้าไปลึกจนถึงโคนทันที ทั้งสองสาวต่างก็สะดุ้งเฮือกสูดปากพร้อมๆกัน ต่างคนต่างก็กระเด้งสู้กันไม่มีถอย ใบหน้าของทั้งสองคนบ่งบอกถึงความเสียวซ่านที่ได้รับพอๆกัน แต่ก็ยังกัดฟันไม่ยอมเสร็จก่อนง่ายๆ แต่ด้วยความได้เปรียบในด้านการเคลื่อนไหว โฉมฉายจึงก้มลงไปดูดหัวนมเพื่อปลุกเสียวให้ริสาด้วยอีกแรง ทำให้ริสาต้องรับศึกถึง 2 ด้านพร้อมๆกัน ข้างล่างก็โดนกระแทกขณะที่ข้างบนก็โดนดูด ขืนเป็นอย่างนี้ต่อไปเธอคงไปไม่รอดแน่ๆ ริสาจึงตัดสินใจหนีบท่อนยางในร่องรักให้แน่นกระชับแล้วกระเด้งสวนขึ้นไปไม่ยั้ง โฉมฉายเองเมื่อโดนไม้นี้เข้าก็อ่อนระทวย เพราะเธอเองก็เพิ่งจะเคยเล่นบทเสียวแบบเลสเบี้ยนที่ต้องแสดงอย่างถึงบทบาทครั้งนี้เป็นครั้งแรก ส่วนริสานั้นเคยถูกธารทิพย์ น้องสาวของภุชงค์จับเธอเล่นฉิ่งอย่างนี้มาก่อนแล้ว นักสืบสาวจึงพอจะมั่นใจในประสบการณ์ของตัวเองอยู่พอสมควร และรู้จังหวะดีว่าควรจะทำยังไงให้ฝ่ายตรงข้ามถึงสวรรค์ไปก่อน ซึ่งในที่สุดริสาก็สามารถชนะในเกมเสียวนี้ได้ เธอจัดการส่งโฉมฉายขึ้นสวรรค์ไปก่อนหน้าที่ตัวเองจะเสร็จเพียงเสี้ยววินาที โฉมฉายเองเมื่อถึงจุดสุดยอดด้วยท่อนยางเทียมของตัวเองเข้าก็หมดเรี่ยวหมดแรงจนลุกไม่ขึ้น หน้ากากที่เธอใส่ไว้ก็เลื่อนหลุดออกไปในจังหวะที่เธอฟุบหน้าลงกับร่างของริสา ทำให้ริสารู้ว่าที่แท้คนที่เข้ามาทรมานเธอด้วยความเสียวนั้นก็คือโฉมฉายนี่เอง โฉมฉายยอมเล่าความจริงเกี่ยวกับการกระทำของเธอทุกอย่างให้ริสาฟัง เธอบอกว่าเคยทำแบบเดียวกันกับจงจิตต์และอรทัยมาแล้ว ซึ่งทั้งสองคนนั้นยังเป็นสาวบริสุทธิ์ด้วยกันทั้งคู่ พอเจอแค่ท่อนยางเทียมเข้าไปก็ร้องครวญครางแบบหมดฟอร์มสาวใสซื่อไร้เดียงสากลายเป็นสาวร่านสวาทไปหมด และก็ทำให้ทั้งสองคนรู้สึกละอายไม่กล้าสู้หน้าคุณภาดล แต่เธอไม่คิดว่าทั้งสองคนจะหนีหายไปแบบไร้ร่องรอยอย่างนี้ ถึงตอนนี้ริสาก็สืบจนได้ความไปขั้นนึงแล้ว เธอแน่ใจแล้วว่าคนร้ายที่ทำให้จงจิตต์หายไปไม่ใช่โฉมฉายแน่นอน เพราะดูจากอุปกรณ์ข่มขวัญเธอในคืนนี้แล้วทำให้ริสามั่นใจว่าโฉมฉายไม่มีทางฆ่าใครได้แน่นอนนอกจากแค่ขู่ให้เสียวเล่นเท่านั้น แต่ว่าเธอยังเจอปัญหาหนักอีกอย่างนึงก็คือ หลังจากที่โฉมฉายหลบออกไปจากห้องเธอแล้ว เธอจะทำยังไงกับเชือกที่มัดแขนขาของเธอดี เพราะสภาพของเธอตอนนี้หากใครมาเห็นเข้าละก็คงดูไม่จืดแน่ๆ นักสืบสาวที่ถูกขึงพืดเปลือยกายโดยมีท่อนยางเทียมอันยาวใหญ่ปักคาอยู่ในร่องเสียวแบบนี้ โฉมฉายนะโฉมฉาย..ยังอุตส่าห์แกล้งหล่อนจนถึงนาทีสุดท้ายจนได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น